ในยุคที่การสตรีมมิ่งได้รับความนิยม ไมโครโฟนกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญ สำหรับนักสตรีมเมอร์ YouTuber หรือแม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไป
ไมค์ตัดเสียงรบกวน หรือ Noise Cancelling Microphone เป็นหนึ่งในไมค์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของผู้ใช้มีความชัดเจน ฟังสบาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน
1. ข้อดีของไมค์ตัดเสียงรบกวน:
ลดเสียงรบกวนจากรอบข้าง: ไมค์ตัดเสียงรบกวน มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่น เสียงรถยนต์ เสียงคนพูดคุย เสียงเครื่องปรับอากาศ ทำให้เสียงพูดของผู้ใช้มีความชัดเจน ฟังสบาย
เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน: ไมค์ตัดเสียงรบกวน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน เช่น บ้าน ออฟฟิศ ร้านกาแฟ หรือสถานที่กลางแจ้ง
เพิ่มคุณภาพเสียง: ไมค์ตัดเสียงรบกวน ช่วยให้เสียงพูดของผู้ใช้มีความคมชัด ใส ฟังง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในการสตรีมมิ่ง การบันทึกเสียง หรือการประชุมออนไลน์
ใช้งานง่าย: ไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนใหญ่ใช้งานง่าย เพียงเสียบต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้งานได้ทันที
2. ประเภทของไมค์ตัดเสียงรบกวน:
ไมค์แบบ Dynamic: ไมค์แบบ Dynamic มักมีราคาไม่แพง ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
ไมค์แบบ Condenser: ไมค์แบบ Condenser มักมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าไมค์แบบ Dynamic เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการคุณภาพเสียงสูง เช่น การสตรีมมิ่ง การบันทึกเสียง
ไมค์แบบ Headset: ไมค์แบบ Headset สะดวกต่อการใช้งาน เพราะสวมใส่บนศีรษะ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการเคลื่อนที่ไปมา เช่น การเล่นเกม การประชุมออนไลน์
3. วิธีเลือกซื้อไมค์ตัดเสียงรบกวน:
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณก่อนตัดสินใจซื้อ
การใช้งาน: พิจารณาการใช้งานว่าต้องการไมค์สำหรับใช้งานทั่วไป หรือใช้งานที่ต้องการคุณภาพเสียงสูง
ประเภทของไมค์: เลือกประเภทของไมค์ให้เหมาะกับการใช้งาน
คุณสมบัติ: เปรียบเทียบคุณสมบัติของไมค์แต่ละรุ่น เช่น ความไวของไมค์ รูปแบบการเชื่อมต่อ อายุการใช้งานแบตเตอรี่
รีวิว: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
|