E-E-A-T คืออะไร? ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO ในปี 2025
โลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ Google ก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาอัลกอริทึมเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ค้นหาที่ดีที่สุด E-E-A-T คือคำตอบล่าสุดในการประเมินคุณภาพเนื้อหาบนโลกออนไลน์
ทำความรู้จักกับ E-E-A-T และความสำคัญต่อ SEO
E-E-A-T คืออะไร?

E-E-A-T ย่อมาจาก Experience (ประสบการณ์), Expertise (ความเชี่ยวชาญ), Authoritativeness (ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการ) และ Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) เป็นแนวทางที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเว็บไซต์และเนื้อหา การให้คะแนนตามหลักนี้ช่วยให้ Google คัดกรองเว็บไซต์ที่มีข้อมูลแม่นยำและเชื่อถือได้ ทำให้ E-E-A-T มีบทบาทสำคัญในการทำ SEO
พัฒนาการจาก E-A-T สู่ E-E-A-T
ก่อนหน้านี้ Google ใช้หลัก E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เป็นเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ แต่ล่าสุดได้เพิ่มองค์ประกอบ Experience (ประสบการณ์) เข้ามาเพื่อให้เว็บไซต์ที่มีข้อมูลจากประสบการณ์จริงได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การเงิน และเรื่องที่มีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน
ทำไม Google ถึงให้ความสำคัญกับ E-E-A-T?
การที่ Google ให้ความสำคัญกับ E-E-A-T เกิดจากความต้องการให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และน่าเชื่อถือ ยิ่งเว็บไซต์สามารถแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จริงมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันดับที่ดีขึ้นบนหน้าผลการค้นหา
องค์ประกอบของ E-E-A-T มีอะไรบ้าง?
Experience (ประสบการณ์)
Google ต้องการให้เว็บไซต์มีข้อมูลที่ผ่านการใช้งานหรือทดสอบจริง เช่น รีวิวสินค้าโดยผู้ใช้จริง หรือบทความที่เขียนโดยผู้มีประสบการณ์ตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เนื้อหา
Expertise (ความเชี่ยวชาญ)
ความเชี่ยวชาญหมายถึงการที่ผู้เขียนมีความรู้และความเข้าใจในหัวข้อนั้น ๆ อย่างแท้จริง Google จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
Authoritativeness (ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการ)
เว็บไซต์หรือบุคคลที่ได้รับการยอมรับในวงการจะได้รับความไว้วางใจมากขึ้น เช่น แพทย์ที่ให้ข้อมูลทางการแพทย์ หรือที่ปรึกษาทางการเงินที่ให้คำแนะนำด้านการลงทุน
Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)
เว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีการอ้างอิงแหล่งที่มา และไม่มีเนื้อหาหลอกลวง การมี HTTPS และนโยบายความเป็นส่วนตัวก็ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือได้
E-E-A-T มีผลต่อการจัดอันดับ SEO อย่างไร?

รูปภาพจาก Search Engine Journal
ความสัมพันธ์ระหว่าง E-E-A-T กับอัลกอริทึมของ Google
Google ใช้ E-E-A-T เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยคัดกรองเนื้อหา โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญของผู้สร้างเนื้อหา ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน หลักการทำ SEO ที่ควรรู้ สำหรับการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ในกลุ่ม YMYL (Your Money Your Life) เช่น ด้านสุขภาพ การเงิน และกฎหมาย ที่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้โดยตรง
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้ E-E-A-T ได้ดี
เว็บไซต์ด้านสุขภาพ เช่น Mayo Clinic หรือ WebMD เป็นตัวอย่างของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทำให้มีอันดับที่ดีใน Google
วิธีปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับ E-E-A-T
สร้างเนื้อหาคุณภาพและเชื่อถือได้
เนื้อหาควรมีข้อมูลที่ถูกต้อง อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีการอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอ
การใช้แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและการอ้างอิง
การใส่ลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับ เช่น งานวิจัย หนังสือ หรือเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ ช่วยให้ Google รับรู้ว่าเนื้อหานั้นมีคุณภาพ
สร้างโปรไฟล์ผู้เขียนที่มีความน่าเชื่อถือ
ควรแสดงข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียน รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้ใช้และ Google มั่นใจว่าเนื้อหามาจากผู้มีความรู้จริง
การรับรีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้
รีวิวจากผู้ใช้จริงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และส่งผลดีต่ออันดับ SEO โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ
เทรนด์ SEO ปี 2025 และบทบาทของ E-E-A-T
AI และการวิเคราะห์คุณภาพเนื้อหา
Google ใช้ AI อย่าง Google BERT และ Google MUM ในการวิเคราะห์เนื้อหา ทำให้การพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพตามหลัก E-E-A-T เป็นสิ่งสำคัญ
Search Intent กับการใช้ E-E-A-T
การทำ SEO ในปัจจุบันต้องเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ (Search Intent) เช่น การค้นหาข้อมูล ค้นหาผลิตภัณฑ์ หรือการเปรียบเทียบสินค้า ซึ่งต้องมีข้อมูลที่ตอบโจทย์และเชื่อถือได้
ความปลอดภัยของเว็บไซต์และความโปร่งใสของข้อมูล
เว็บไซต์ที่ปลอดภัยและมีความโปร่งใส เช่น การใช้ HTTPS, การเปิดเผยข้อมูลบริษัท และนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ทำไม E-E-A-T จึงสำคัญต่อ SEO ในปี 2025
E-E-A-T ไม่ใช่แค่แนวทางที่ Google ใช้พิจารณาคุณภาพเนื้อหา แต่เป็นปัจจัยที่ช่วยให้เว็บไซต์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง สร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้ และทำให้ SEO มีผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เว็บไซต์ที่สามารถแสดงถึงประสบการณ์จริง ความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือได้อย่างชัดเจน ย่อมได้รับความสนใจจากทั้ง Google และกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้มีอัตราการเข้าชมและ Conversion ที่สูงขึ้นในระยะยาว
|